ตร.รวบมือโพสต์ #แอร์ไม่เย็น เผยแพร่เฟกนิวส์หมิ่นเบื้องสูง

ตร.รวบมือโพสต์ #แอร์ไม่เย็น เผยแพร่เฟกนิวส์หมิ่นเบื้องสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม “ฟ้าฝน” ผู้โพสต์เรื่องราว #แอร์ไม่เย็น ฐานผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นเบื้องสูง ตำรวจเผยเป็นอดีตนักต้มตุ๋น สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายเวหา แสนชนชนะศึก หรือ สิริพงษ์ บุตรดีวงษ์ หรือ ทยา บุตรดีวงษ์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 195/2564 ลงวันที่ 10 ส.ค.2564

ภายใต้ข้อหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ , 

นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันน่าจะเสียหายต่อความั่นคงปลอดภัยของประเทศ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเสียหายต่อความมั่นคง พร้อมของกลางที่ตรวจยึดมาจำนวน 10 รายการ ดังนี้ โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง , Micro SD ยี่ห้อ Kingston จำนวน 1 อัน , ซิมโทรศัพท์ จำนวน 6 อัน และ กล่องโทรศัพท์ จำนวน 2 กล่อง มาส่งให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท.ทำการสอบสวน

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าผู้ต้องหา เป็นอดีตนักต้มตุ๋นงานวิ่งเนินมะปราง และเป็นผู้โพสต์ เกี่ยวกับไสยศาสตร์ในวัง , แอร์ไม่เย็น เป็นต้น ผ่านทวิตเตอร์บัญชี lll ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 1.4 แสนราย

ศาลฎีกา สั่งลดโทษ ศาลฎีกา ผู้ต้องหาคดีจ้างฆ่าปลัดขอนแก่น เมื่อปี 2556 โดยก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต ศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.929/2561 ที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ และนางลำดวน โคตรทุม โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ความผิดต่อชีวิต เหตุจ้างวานฆ่าปลัดอบจ.ขอนแก่น เมื่อปี 2556 โดย ศาลฎีกา พิพากษาแก้โทษอาญา เนื่องจากทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(1) ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาส่วนแพ่งให้จำเลยรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 3 พ.ค.2556 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก ภายในหมู่บ้านจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ต่อมาตำรวจจับกุมผู้ต้องหาและผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1 ,พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม อดีต รองผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น จำเลยที่ 2 ,นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3, นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 โดยศาลฎีกาพิพากษาตัดสินประหารชีวิต พ.ต.ท.สมจิตร , ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ด.ต.วีระศักดิ์ , นายประพันธ์ และ นายบุญช่วย ซึ่งเป็น จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ส่วนนายปิยะพงษ์ จำเลยที่ 5 ให้ยกฟ้อง

ขณะเดียวกัน ศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับนายนวัธ ในข้อหากระทำความผิดฐานจ้างวานผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหลังมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา ที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมนายสุชาติ และระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นางลำดวน โคตรทุม ภรรยาของนายสุชาติ ขอเป็นโจทก์ร่วม และยื่นคำร้องขอให้นายนวัธ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนค่าปลงศพ และค่าใช้จ่ายอันจำเป็น

โดยศาลชั้นได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ระบุว่า ผู้ต้องหามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 84 ลงโทษประหารชีวิต และให้จำเลยชดใช้ค่าปลงศพ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5

‘หมู่ต้อม’ โฮ ขัดคำสั่งผู้กำกับโจ้ไม่ได้ สำนึกผิดตลอด

มารดาของ หมู่ต้อม ได้ออกมาร้องข้อความเป็นธรรมให้ลูกชาย เผยขัดคำสั่งผู้กำกับโจ้ไม่ได้ เพราะเป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบลงโทษลูกน้อง พนักงานสอบสวนคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ถุงคุมศีรษะของผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต ได้นำตัวตำรวจทั้ง 4 นาย ที่จับกุมได้จากกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรนครสวรรค์ เพื่อทำการพิมพ์ลายนิ้วมือและสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำตัวทั้งหมดไปส่งฟ้องฝากขังศาลนครสวรรค์ในวันพรุ่งนี้เช้า

โดย นางบวรรัตน์ มารดาบุญธรรมของ ส.ต.ต.ปวีณ์กร หนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถของ ผกก.โจ้ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ลูกชายผ่านสื่อมวลชนด้วย นางบวรรัตน์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ส.ต.ต.ปวีณ์กร ถูกนายบังคับให้กระทำเพราะไม่สามารถขัดคำสั่งนายได้ และตลอดเวลาที่กระทำลงไปสำนึกผิดมาโดยตลอด ซึ่งพฤติกรรมของผู้กำกับผู้นี้ตำรวจทุกนายทราบดีว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบลงโทษลูกน้อง ดุด่า และเอาแต่ใจไม่มีใครชอบ

จากนั้นก็เปิดเสียงการสนทนาระหว่างนางบวรรัตน์ และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร ผ่านทางโทรศัพท์ให้ผู้สื่อข่าวได้ฟัง ซึ่งข้อความการสนทนาของผู้ต้องหารายนี้สนทนาด้วยน้ำตาว่า กระทำลงไปเพราะว่าผู้กำกับเรียกให้ไปจับกดผู้ต้องหา กระทำลงไปเพราะไม่รู้จะขัดคำสั่งนายอย่างไร ซึ่งไม่เคยกระทำอย่างนี้มาก่อน และแฉพฤติกรรมผู้กำกับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบลงโทษลูกน้องหากใครไม่ทำตามจะถูกลงโทษ จึงไม่รู้จะขัดคำสั่งอย่างไร สำนึกผิดและขอความเป็นธรรมด้วย

ตำรวจหนึ่งในทีม ชุดจับกุม ผู้กำกับโจ้ รับสารภาพ ทำจริง เพราะนายสั่ง ชี้ปมก่อเหตุ อาจไม่ได้มาจากการรีดเงิน แต่ต้องการข้อมูลบางอย่าง วันที่ 25 ส.ค. 64 ความคืบหน้าล่าสุดคดี ผู้กำกับโจ้ เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางมายัง สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับไปตรวจสอบยังห้องบ้านกาแฟ สถานที่เกิดเหตุที่อยู่ในคลิป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป